Saturday, December 29, 2007

Shortcut

โฟโต้ชอปมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง
นั่นก็คือเครื่องมือเลือกสีของมัน
คนที่ใช้เป็นประจำคงจะรู้ดีกว่า เวลาจะ
เลือกสีส่วนใหญ่ต้องไปกดให้มันขึ้นหน้าต่างใหม่มาถึงจะเลือกสีได้
ซึ่งเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับเพนท์เตอร์แล้ว โฟโตชอปเสียเปรียบก็อีตรงนี้แหละ

เมื่อไม่นานเราได้ดูดีวีดีสอนของ Iain McCaig มา ปรากฏว่าเขามีทางแก้ปัญหานี้ได้ง่ายอย่างน่าตกใจ O_o!
เขาสร้างภาพมาอันนึง เป็นภาพของค่าสี spectrum มีไล่ตั้งแต่ hue ไปถึงค่า สว่างถึงมืด(value)
สร้างเป็นงานใหม่เซฟไว้ เวลาจะเพนท์ภาพ เขาก็จะเปิดภาพสีนี่ขึ้นมาข้างๆ แล้วใช้วิธีจิ้มสีจากอันนี้เอา!?
โอว เล่นงี้เลยหรอ แต่ก็น่าสนใจมาก เมื่อคืนเราเลยลองไปสร้าง spectrum ของเราบ้าง อิอิ


เวอร์ชั่นของเรา แบ่ง 5 ช่องแรกไว้ตาม
ค่าความเข้มของสี
ซ้ายบนคือ saturation เต็ม แล้วก็ลดทีละ 25% เรื่อยๆจนเหลือเทานี่แหละงับ
นอกจากที่ช่องขวาล่างที่เหลือ เราก็เลยกำหนดสีที่จำเป็นๆไว้
มี cmyk rgb ไล่เฉดเทา เฉดเทาช่วงซ้ายล่างนั่น
เป็นการกำหนดเฉดเทาสำหรับ สี low key/high key จนถึง contrast เต็มที่ ^^
ตรงกลาง เป็นการไล่สีพวกแม่สี จากสีสดถึงซีดจนเทา และ spectrum แถบเล็กๆข้างบนนั่น ผมพยายามทำบรรยากาศท้องฟ้า ตั้งแต่กลางคืนถึงเช้าถึงเที่ยงถึงเย็นและจบที่กลางคืนครับ
biggrin
เวอร์ชั่นของ Iain McCaig ไม่ใช่แบบนี้หรอกครับ ของเขาเรียงไงก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน อันนี้ผมก็สร้างมีอีกทีตามความเข้าใจเรื่อง hue staturation value ของผมเอง ^^''

แล้วมันก็ทำให้การเลือกสีในโฟโตชอปทำได้ง่ายขึ้นจริงๆ = =+

Friday, December 28, 2007

วู๊ฮู~


before
after

mrgreenmrgreenmrgreen
ตัดผมเรียบร้อยแล้ว อิอิ ตัดไปเมื่อคืนวันที่ 24 ท้ายปีก็ตัดซะหน่อย ^^ เพื่อความสดชื่น และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ
เล่นเอาเราฉงนเลยว่า ชีวิตเราในยามที่ผมยาว และ มาผมสั้นนี่ ความรู้สึกมันช่างแตกต่างได้เพียงนี้
อย่างน้อยก็ในแง่ของความทรงจำ
ก่อนหน้านี้ เราคือเด็กเซอร์ ต้องคอยคว้าหาที่คาดผม ต้องคอยเอามือปัดผมขึ้นตลอดเวลา
ลมพัดก็บังหน้า กินข้าวก็บังปาก วาดรูปก็มองไม่เห็นงาน 555 นี่พูดเหมือนผมยาวมันน่าลำคาญเลยแฮะ

บัดนี้เรารู้สึกสดชื่นอย่างไม่เคยจะรู้สึกมาก่ิอน แต่จริงๆแล้ว เด็กๆเราก็ผมสั้นกันทั้งนั้นล่ะนะ
ดูเหมือนว่าเราจะไว้ผมยาวนานไปซะจนลืมไปแล้วล่ะว่าสมัยก่อนตอนผมสั้นเรารู้สึกยังไง
เพราะตอนนี้มันรู้สึกโล่งหัวเหลือเกิน สดชื่นๆ 55

ตัดทำไม? ไม่ใช่เพราะเรารำคาญผมเลย(ผมยาวเราก็มีโอกาสได้ใส่ที่คาดผม ฮะฮ่า)
แค่เห็นว่านี่ช่วงสิ้นปี ก็เลยอยากทำอะไรที่มัน refresh ซะหน่อย ไปๆมาๆ เลยคิดว่าตัดผมก็ไม่เลวนะ
แถมเราก็วาดหน้าเราผมยาวมาตั้ง 160 กว่าภาพแล้ว เปลี่ยนหน่อยนี่เป็นความคิดที่เยี่ยมเลย
ยังไงซะปีที่ผ่านมา เราก็เจอ 2.07 ไป(และเรื่องเครียดเป็นธรรมดา = ='') คงถึงเวลากำหนดจุดที่จะเริ่มต้นใหม่ล่ะนะrolleyes

Sunday, December 16, 2007

back to basic *-*





อย่างแรกที่ต้องติ ก็คือว่ามันไม่ค่อยจะกลมนี่แหละน๊า 555

Saturday, December 15, 2007

155



โอย อาทิตย์ที่แล้วทั้งอาทิตย์ หมดเวลาไปกับงานการบ้านอย่างเดียวเลย = =''
เพิ่งได้มาเพนท์เล่นนี่แหละredface
อุ่นเครื่องซ้อมมือด้วยเสก็ตขาวดำ กับ หน้าตัวเองหน้าที่ 155

Saturday, December 08, 2007

Update


อัพเดท
ช่วงนี้เหมือนได้วาดแค่อาทิตย์ละภาพสองภาพเอง = ='' (ที่เหลือการบ้าน)

Thursday, December 06, 2007

why...

จู่ๆก็รู้สีกว้าเหว่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน

นั่งปั่นงานอยู่ดีๆ จู่ๆทำเราถึงได้รู้สึก.กลวงได้เช่นนี้กันนะ

มันอาจจะเริ่มมาจากวันนี้ เราได้ดูข่าว ที่มีวัยรุ่นไปยิงคนตายไปแปดศพ แล้วจากนั้นจึงจัดการปลิดชีพตัวเองไปด้วย
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในห้างแห่งหนึ่งในรัฐเนบราสก้า สหรัฐอเมริกา
ประเทศนี้มันต้องมีปัญหาเกี่ยวกับกฏหมายปืนจริงๆนะเนี่ย ถึงได้มีข่าววัยรุ่น เอาปืนไปยิงหมู่งี้เป็นประจำ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่มันกวนใจเราตอนนี้ก็คือ ในเรื่องของเหตุจูงใจ และตัวผู้ก่อการนี้

ชื่อเขาคืออะไรตอนนี้ยังจำไม่ได้ แต่เขาไม่ได้เป็นประเภทโจรห้าร้อย อะไรอย่างงี้เลย
เป็นแค่วัยรุ่น ที่ผิวเผินก็ธรรมดาทั่วๆไป แต่เขามีสิ่งหนึ่งที่คล้่ายๆกันหมดที่นักฆ่าประเภทนี้มีเหมือนกันหมดเลย

คือ เป็นเด็ก ธรรมดา เนิร์ดๆ ที่มักจะถูกรังแก หรือ โดนสังคมปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
หรือเขาจะคิดกับตัวเขาเช่นนั้นเฉยๆก็ตาม ที่น่ากลัวคือ เราค่อนข้างจะเข้าใจพวกเขา
แน่นอน เราไม่เห็นด้วยแน่นอน กับ การกระทำฆ่ากันเช่นนี้

เราไม่อยากฆ่าใคร เราไม่อยากทำให้ใครต้องเจ็บตัว และเราก็ไม่อยากต้องจบชีวิตลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้
แต่ แต่ๆ โลกไม่เข้าใจผมเลย ทำไมเราถึงต้องมาเป็นเช่นนี้ เราทำอะไรผิด ทำไมพวกเขาถึงต้องทำกับเรา
อย่างหนักหน่วงเช่นนี้ ไม่มีใครยอมรับตัวเราิในอย่างที่เราเป็นได้เลยรึ

เราอยากจะมีชีวิตต่อ แต่จะมีประโยชน์อะไร กับโลกที่มีแย่ๆแบบนี้ล่ะเนี่ย
ผมจะโชว์ให้ดู ผมจะให้มันต้องจดจำ ผมจะจากไปอย่างมีไสตล์.... ให้พวกมึงต้องจดจำ!!


อา... คงจะเป็นอะไรประมาณนี้ล่ะนะ แว๊ก น่ากลัวดีแท้ *-*''

เราตื่นขึ้น และทุกวัน พยายามจะทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดีที่สุดของเรา มองโลกในแง่ดี และยิ้มแย้มเข้า
ผมรู้ดีว่า ผมมีเพื่อนที่ดีอยู่ ผมมีที่ๆผมคิดว่าผมยังยึดติดอยู่ได้ ผมคิดว่าจุดยืนของผม โลกยังมีที่ให้มันอยู่
พบปะผู้คน เจอะเจอคนแปลกหน้า และพยายามรำลึกอยู่เสมอว่า โลกนี้กว้างใหญ่เพียงใด
และชีวิตคนเรานั้น ช่างยิ่งใหญ่เพียงใด ชีวิตที่แสนสั้นนี้ แต่มันก็มากพอจะให้เราตักตวงความสุขได้มากมาย

ตามตรงแล้วก็คือผมเป็นคนเก็บตัว แต่ผมคิดว่านี่เป็นธรรมชาติของผมอยู่แล้ว ผมไม่ต้องการเพื่อนเยอะ ไม่ต้องการอะไรมาก
ขอแค่ให้ผมอยู่ของผมได้ และไม่เป็นปิศาจให้ใครๆ เฝ้าดูความเป็นไปของโลกนี้ และดูว่าอนาคตของมนุษยชาติจะเป็นเช่นไร
อาจจะบันทึกสิ่งต่างไว้ผ่านงานศิลปะของผมด้วยก็ได้ ^^

กระนั้นบางครั้ง เพียงแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้เราใจสลายได้ สภาพแวดล้อมเพียงครู่เดียว ก็ทำให้อารมณ์เราแปรเปลี่ยนได้
นี่ฉันเปราะบางเกินไป หรือโลกนี้มันโหดร้ายเกินไปนะ?

พยายามสดชื่น และมีความสุข แต่หลายอย่างเหลือเกินที่ทำให้เรากลายเป็นบ้าคลั่งไปได้
พยายามจดจำคำว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการเสมอไป แต่หลายครั้งที่ฉันสงสัยว่า
พวกเขายิ้มอยู่อย่างงี้ไปได้อย่างไร นั่นคือการหลอกลวงใช้หรือไม่ แล้วชีวิตจะมีดีอะไร?
ฉันสามารถที่จะยิ้มขึ้นมาได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าฉันนั่งยิ้มอยู่คนเดียว...

หลายครั้งที่หลายคนยิ้ม ชั้นไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยิ้มกันนักหนา
หลายครั้งที่ฉันยิ้ม ไม่มีใครรับรู้ และ ไม่มีใครเข้าใจฉัน
คนอื่นยิ้ม ฉันไม่ยิ้ม
ฉันยิ้ม ฉันยิ้มอยู่คนเดียว

นี่มันคืออะไรกัน?...
พยายามเข้าใจโลก แต่ไม่มีใครเข้าใจฉันซักคนเลยหรอ ? หา?


เมื่อได้ดูข่าวที่ยิงในห้างวันนี้แล้ว เขาเอาภาพถ่ายพอทเทรด ของฆาตกรขึ้นมาให้ดู
อืม...นั่นราวกับว่าฉันเห็นหน้าฉันเอง ไม่ใช่แค่รูปพรรณ แต่มันคืออารมณ์ มันคือรังสีที่หลุดออกมาจากภาพนั้น
ฉันรู้สึกเช่นเดียวกัน เวลาที่ฉันมองภาพหน้าตัวเองที่ฉันวาดมา 150 กว่าภาพแล้ว

นี่เราเดินรอยเท้าเดียวกันหรือ?
ทันใดที่เห็นข่าวนี้และเรื่องราวของฆาตกรคนนี้แล้ว จู่ๆในหัวของฉันก็มีความคิดตามที่ได้บรรยายไว้ข้างบนผุดขึ้นมาทันที
มันหยุดไม่ได้ มันมาเรื่อยๆ และบัดนี้ผ่านมาจะ 4 ชม.แล้ว นับจากที่ดูข่าว
ฉันรู้สึกว้าเหว่อย่างยิ่ง

ในข่าวฉันเห็นผู้บริสุทธ์ในเหตุการณ์ต่างก็วิ่งเข้าไปหาครอบครัวบ้าง เพื่อนบ้าง
ทุกคนต่างวิตก หลายคนใจสั่น หลายคนร้องไห้ บางคนโอบกอดกัน ไม่ว่าในใจจะพูด
ว่าเราเป็นตัวของตัวเองแค่ไหน อดีตเป็นเช่นไร แต่ในเหตุการณ์จริง พฤติกรรมทุกคนช่างดู...typical
พวกเขารอดมาได้ และผมก็ดีใจกับพวกเขาจริงๆ ที่รอดมาได้
แต่
คนเหล่านั้น ก็คือคนที่ยิ้ม แล้วผมไม่เข้าใจใช่มั้ย?
ถ้าผมยิ้ม เขาจะเข้าใจเรามั้ยนะ...



เราเป็นอะไรไปเนี่ย...

Monday, December 03, 2007

6PM


ชีวิตฉันเริ่มต้นหลังหกโมงเย็น
(หน้าตัวเองหน้าที่หนึ่งร้อยห้าสิบสี่)

Sunday, December 02, 2007

สาเก็ตตต

แวะเอางานเสก็ตมาแปะคร้าบ


Abstract ไร้ความหมาย

ฝึกเพ้นท์คนกันต่อไป ^^