Thursday, December 06, 2007

why...

จู่ๆก็รู้สีกว้าเหว่ขึ้นมาอย่างกระทันหัน

นั่งปั่นงานอยู่ดีๆ จู่ๆทำเราถึงได้รู้สึก.กลวงได้เช่นนี้กันนะ

มันอาจจะเริ่มมาจากวันนี้ เราได้ดูข่าว ที่มีวัยรุ่นไปยิงคนตายไปแปดศพ แล้วจากนั้นจึงจัดการปลิดชีพตัวเองไปด้วย
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในห้างแห่งหนึ่งในรัฐเนบราสก้า สหรัฐอเมริกา
ประเทศนี้มันต้องมีปัญหาเกี่ยวกับกฏหมายปืนจริงๆนะเนี่ย ถึงได้มีข่าววัยรุ่น เอาปืนไปยิงหมู่งี้เป็นประจำ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่มันกวนใจเราตอนนี้ก็คือ ในเรื่องของเหตุจูงใจ และตัวผู้ก่อการนี้

ชื่อเขาคืออะไรตอนนี้ยังจำไม่ได้ แต่เขาไม่ได้เป็นประเภทโจรห้าร้อย อะไรอย่างงี้เลย
เป็นแค่วัยรุ่น ที่ผิวเผินก็ธรรมดาทั่วๆไป แต่เขามีสิ่งหนึ่งที่คล้่ายๆกันหมดที่นักฆ่าประเภทนี้มีเหมือนกันหมดเลย

คือ เป็นเด็ก ธรรมดา เนิร์ดๆ ที่มักจะถูกรังแก หรือ โดนสังคมปฏิเสธ ไม่ว่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
หรือเขาจะคิดกับตัวเขาเช่นนั้นเฉยๆก็ตาม ที่น่ากลัวคือ เราค่อนข้างจะเข้าใจพวกเขา
แน่นอน เราไม่เห็นด้วยแน่นอน กับ การกระทำฆ่ากันเช่นนี้

เราไม่อยากฆ่าใคร เราไม่อยากทำให้ใครต้องเจ็บตัว และเราก็ไม่อยากต้องจบชีวิตลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้
แต่ แต่ๆ โลกไม่เข้าใจผมเลย ทำไมเราถึงต้องมาเป็นเช่นนี้ เราทำอะไรผิด ทำไมพวกเขาถึงต้องทำกับเรา
อย่างหนักหน่วงเช่นนี้ ไม่มีใครยอมรับตัวเราิในอย่างที่เราเป็นได้เลยรึ

เราอยากจะมีชีวิตต่อ แต่จะมีประโยชน์อะไร กับโลกที่มีแย่ๆแบบนี้ล่ะเนี่ย
ผมจะโชว์ให้ดู ผมจะให้มันต้องจดจำ ผมจะจากไปอย่างมีไสตล์.... ให้พวกมึงต้องจดจำ!!


อา... คงจะเป็นอะไรประมาณนี้ล่ะนะ แว๊ก น่ากลัวดีแท้ *-*''

เราตื่นขึ้น และทุกวัน พยายามจะทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดีที่สุดของเรา มองโลกในแง่ดี และยิ้มแย้มเข้า
ผมรู้ดีว่า ผมมีเพื่อนที่ดีอยู่ ผมมีที่ๆผมคิดว่าผมยังยึดติดอยู่ได้ ผมคิดว่าจุดยืนของผม โลกยังมีที่ให้มันอยู่
พบปะผู้คน เจอะเจอคนแปลกหน้า และพยายามรำลึกอยู่เสมอว่า โลกนี้กว้างใหญ่เพียงใด
และชีวิตคนเรานั้น ช่างยิ่งใหญ่เพียงใด ชีวิตที่แสนสั้นนี้ แต่มันก็มากพอจะให้เราตักตวงความสุขได้มากมาย

ตามตรงแล้วก็คือผมเป็นคนเก็บตัว แต่ผมคิดว่านี่เป็นธรรมชาติของผมอยู่แล้ว ผมไม่ต้องการเพื่อนเยอะ ไม่ต้องการอะไรมาก
ขอแค่ให้ผมอยู่ของผมได้ และไม่เป็นปิศาจให้ใครๆ เฝ้าดูความเป็นไปของโลกนี้ และดูว่าอนาคตของมนุษยชาติจะเป็นเช่นไร
อาจจะบันทึกสิ่งต่างไว้ผ่านงานศิลปะของผมด้วยก็ได้ ^^

กระนั้นบางครั้ง เพียงแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้เราใจสลายได้ สภาพแวดล้อมเพียงครู่เดียว ก็ทำให้อารมณ์เราแปรเปลี่ยนได้
นี่ฉันเปราะบางเกินไป หรือโลกนี้มันโหดร้ายเกินไปนะ?

พยายามสดชื่น และมีความสุข แต่หลายอย่างเหลือเกินที่ทำให้เรากลายเป็นบ้าคลั่งไปได้
พยายามจดจำคำว่า ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่เราต้องการเสมอไป แต่หลายครั้งที่ฉันสงสัยว่า
พวกเขายิ้มอยู่อย่างงี้ไปได้อย่างไร นั่นคือการหลอกลวงใช้หรือไม่ แล้วชีวิตจะมีดีอะไร?
ฉันสามารถที่จะยิ้มขึ้นมาได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าฉันนั่งยิ้มอยู่คนเดียว...

หลายครั้งที่หลายคนยิ้ม ชั้นไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยิ้มกันนักหนา
หลายครั้งที่ฉันยิ้ม ไม่มีใครรับรู้ และ ไม่มีใครเข้าใจฉัน
คนอื่นยิ้ม ฉันไม่ยิ้ม
ฉันยิ้ม ฉันยิ้มอยู่คนเดียว

นี่มันคืออะไรกัน?...
พยายามเข้าใจโลก แต่ไม่มีใครเข้าใจฉันซักคนเลยหรอ ? หา?


เมื่อได้ดูข่าวที่ยิงในห้างวันนี้แล้ว เขาเอาภาพถ่ายพอทเทรด ของฆาตกรขึ้นมาให้ดู
อืม...นั่นราวกับว่าฉันเห็นหน้าฉันเอง ไม่ใช่แค่รูปพรรณ แต่มันคืออารมณ์ มันคือรังสีที่หลุดออกมาจากภาพนั้น
ฉันรู้สึกเช่นเดียวกัน เวลาที่ฉันมองภาพหน้าตัวเองที่ฉันวาดมา 150 กว่าภาพแล้ว

นี่เราเดินรอยเท้าเดียวกันหรือ?
ทันใดที่เห็นข่าวนี้และเรื่องราวของฆาตกรคนนี้แล้ว จู่ๆในหัวของฉันก็มีความคิดตามที่ได้บรรยายไว้ข้างบนผุดขึ้นมาทันที
มันหยุดไม่ได้ มันมาเรื่อยๆ และบัดนี้ผ่านมาจะ 4 ชม.แล้ว นับจากที่ดูข่าว
ฉันรู้สึกว้าเหว่อย่างยิ่ง

ในข่าวฉันเห็นผู้บริสุทธ์ในเหตุการณ์ต่างก็วิ่งเข้าไปหาครอบครัวบ้าง เพื่อนบ้าง
ทุกคนต่างวิตก หลายคนใจสั่น หลายคนร้องไห้ บางคนโอบกอดกัน ไม่ว่าในใจจะพูด
ว่าเราเป็นตัวของตัวเองแค่ไหน อดีตเป็นเช่นไร แต่ในเหตุการณ์จริง พฤติกรรมทุกคนช่างดู...typical
พวกเขารอดมาได้ และผมก็ดีใจกับพวกเขาจริงๆ ที่รอดมาได้
แต่
คนเหล่านั้น ก็คือคนที่ยิ้ม แล้วผมไม่เข้าใจใช่มั้ย?
ถ้าผมยิ้ม เขาจะเข้าใจเรามั้ยนะ...



เราเป็นอะไรไปเนี่ย...

1 comment:

Anonymous said...

"จากไปอย่างมีสไตล์..."
อ่านผ่านตรงนี้รอบแรกนึกว่าพี่เบ๊นพูดถึงตัวเองนะเนี่ย =w=" ไม่อ่านไม่รู้นะเนี่ยว่ามีข่าวนี้อยู่ด้วย..(เดะไม่ค่อยได้ดูทีวี =__=)

"ขอให้ฉันได้มีพื้นที่เล็กๆ พอที่จะให้ฉันยืนเหม่อลอยได้อย่างมีความสุขก็พอ ถึงแม้ที่นั่นจะไม่มีใครก็ตาม"